7 แบบม่านติดแล้วไม่ตกเทรนด์

Last updated: 26 ส.ค. 2562  |  10500 จำนวนผู้เข้าชม  | 

7 แบบม่านติดแล้วไม่ตกเทรนด์

ม่านพับ (Vertical Blinds)
คือม่านที่มีการพับเรียงซ้อ นขึ้นไปด้านบน เหมาะกับการติดตั้งได้หลากห ลายพื้นที่แต่ส่วนมากจะติดต ั้งหน้าต่างบานเล็กๆ และพื้นที่ที่แสงผ่านไม่มาก นัก

ข้อดี-การติดตั้งประหยัดพื้ นที่ ไม่เกะกะ ดูโมเดิร์น

ข้อเสีย-มีการถอดซักยากกว่า แบบอื่นๆ หากใช้งานที่ไม่ถูกวิธี(เช่ นดึงที่รุนแรงเกินไป) อุปกรณ์ชำรุดง่ายกว่าแบบอื่น

 

ม่านม้วน (Roller Blinds) เป็นม่านชนิดหนึ่งที่มีรูปแ บบทันสมัย ลักษณะเป็นแกนม้วน โดยจะม้วนขึ้นไเก็บไว้ด้านบ น มีให้เลือกหลายหลากทั้งทึบ (Black Out) และให้แสงผ่าบางส่วน (Dim Out) ซึ่งมีทั้งแบบโซ่ดึงและแบบร างมอเตอร์ไฟฟ้า 

ข้อดี-ใช้งานง่ายสดวกปรับคว ามสูงได้ตามต้องการ 
ทำความสะอาดง่าย ไม่เก็บฝุ่น สามารถใช้กับหน้าต่างบานเล้ กไปจนถึงบานใหญ่ๆได้ 

ข้อเสีย-ราคาอาจสูงกว่าแบบม ่านธรรมดาขึ้นมาหน่อย 

 

มู่ลี่ไม้ (Wood Blinds) เป็นแบบม่านอกีชนิดนึงที่นิยมใช้กัน สามารถปรับปิดแสงในแนวนอน แบ่งได้ 3 แบบ 

1.มู่ลี่ไม้รามิน (Ramin Wooden Blinds) ไม้รามินเป็นไม้เนื้อแข็ง แข็งแรงกว่าไม้สนทั่วไป ไม้รามินแท้จะมีผิวไม้ที่ทน ต่อความร้อน เหมาะกับอากาศร้อนๆ อย่างเมืองไทย ส่วนมากจะเคลือบด้วยสาร UV เพื่อป้องกันการขยายตัวและไม่ซีดจางเมื่อใช้งานไปนานๆ 

2.มู่ลี่ไม้บาสวูด (Basswood Wooden Blinds) เป็นไม้ที่มีน้ำหนักเบา ผิวเรียบเนียน สีธรรมชาติเหลืองนวล สม่ำเสมอตลอดทั้งใบ ตัวไม้จะเคลือบสาร UV และเคลือบสารป้องกันเชื้อรา  เหมาะกับห้องที่ไม่โดนแดดโด ยตรง 

3.มู่ลี่ไม้รุ่นสแปนิช (Spanish Wooden Blinds) เป็นการนำไม้บาสวูดเกรดคุณภ าพ มาผ่านขั้นตอนการอบแห้งเพื่ อป้องกันการขยายของเนื้อไม้  และนำมาพิมพ์ลายไม้ด้วยเครื ่อง 3D มาตรฐานของประเทศสเปน ทำให้มีลายไม้ที่เหมือนจริง  เด่นชัด และสวยงาม อีกทั้งมีการเคลือบ UV ทำให้มีอายุการใช้งานนานขึ้ น 

ข้อดี: ไม่ค่อยเก็บฝุ่น ทำความสะอาดไม่ยากนัก 
ข้อเสีย: ไม่นุ่นนวล อ่อนช้อยเหมือนการใช้เป็นแบ บผ้าม่าน เหมาะกับหน้าต่างบานไม่ใหญ่ มาก และไม่นิยมติดในที่ที่ต้องโ ดนความชื้นอย่างต่อเนื่อง

 

ม่านตาไก่ (Eyelet Curtains)
คือม่านมีที่มีการเจาะรูที่ หัวม่าน แล้วใส่ห่วงตาไก่และเว้นระย ะห่างแต่ละห่วงให้เท่ากันเพ ื่อความสวยงาม ซึ่งมีแบบและสีให้เลือกหลาก หลาย เป็นม่านที่รับความนิยม ผ้าม่านแบบนี้คนนิยมใช้รางแ บบโชว์ ซึ่งมีหลากหลายทั้ง รางไม้จริง,รางอลูมิเนียม,ร างไทเทเนียมและรางสแตนเลส 

ข้อดี-เป็นแบบผ้าม่านที่สาม ารถติดได้หลากหลายห้องและอา รมณ์ขึ้นอยู่กับการเลือกราง โชว์ ตัวผ้าม่านมีการทิ้งตัวเป็น ลอนๆ

ข้อเสีย-ถ้าหากเลือกขนาดราง ม่านไม่เหมาะสมหรือไม่มีคุณ ภาพ อาจทำให้การรูดเปิดปิดม่านข ัดๆ(หากใช้ร่างสแตนเลสจะลดป ัญหานี้ได้) ใช้พื้นที่ติดตั้งเยอะกว่าม ่านจีบ หากต้องการซักผ้าม่านเองโดย ใช้เครื่องซักผ้าจะยุ่งยากก ว่าแบบม่านจีบ เพราะต้องถอดตาไก่ออกก่อนซัก

 

ม่านจีบ (Pleated Curtains)
เป็นผ้าม่านที่มีการจับหัวผ ้าม่านทำเป็นจีบเล็กๆ ซึ่งเป็นผ้าม่านที่นิยมมาก เพราะเป็นแบบมาตราฐานสามารถ เข้ากับการตกแต่งได้หลากหลา ย ทั้งโมเดิร์น วินเทจ คลาสสิค 

ข้อดี – ม่านจีบสามารถเลือกใช้ได้ทั ้งรางโชว์และรางตัวซี (ส่วนมากใช้อลูมิเนียม) ต่างจากม่านตาไก่ส่วนมากใช้ แต่รางโชว์อย่างเดียว การจับจีบทำให้มีการซ้อนตัว ของผ้าทำให้กันแสงได้ดีกว่า เล็กน้อย และถอดซักเองได้ง่ายกว่า 

ข้อเสีย – ตรงที่มีการจับจีบม่านจะมีฝ ุ่นจับตัวเยอะกว่าม่านแบบอื่นๆ 

 


 
ม่านปรับแสง (Vertical Blinds)
ปัจจุบันม่านปรับแสงได้รับค วามนิยมเป็นอย่างมาก ด้วยรูปแบบการวางใบของตัวม่ านที่เป็นแนวตั้ง (คล้ายกับมู่ลี่ แต่เป็นแนวตั้ง) สามารถหมุนปรับได้ 180 องศา
ส่วนมากทำจากวัสดุสังเคราห์  ช่วยในการกรองแสงได้ดี และรูปแบบที่ทันสมัยเหมาะติ ดกับทั้ง ออฟิตและในบ้าน 

ข้อดี- คือทำความสะอาดง่ายเพียงดูด ฝุ่นธรรมดา ไม่ต้องซักให้ยุ่งยาก ราคาไม่สูงมาก 

ข้อเสีย - อาจกันแสงไม่ได้สนิท มีแสงลอดมาทางระหว่างแผ่นตัวม่านได้บ้าง 

 

ม่านโปร่ง (Sheer Fabric) เป็นผ้าม่านเนื้อบาง ซึ่งนอกจากความสวยงามแล้ว ยังใช้เพื่อพรางสายตาจากคนภ ายนอกในเวลากลางวัน เพิ่มความเป็นส่วนตัว

ข้อดี: ทำให้แสงบรรยากาศภายในห้องด ูซอฟสบายตาและยังเพิ่มความส วยงามหรูหราได้อีกด้วย 

ข้อเสีย: ม่านโปร่งนั้นไม่กันแสงเลย หากพื้นที่ต้องการบังแสงควร ติดม่านทึบเพิ่มอีกชั้นนึง 
 
 
 
 
 
 
 
 

Powered by MakeWebEasy.com
เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ของท่าน ท่านสามารถอ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว  และ  นโยบายคุกกี้